สุดยอดเชือกคาด แดนสยาม ต้องยกให้ท่านครับ หลวงปู่โชติ วัดตะโน เอกลักษณ์พิเศษของท่านคือลายจระเข้ขบฟัน หัวเป็นตะกร้อ หางเชือกเป็นบ่วงแน่นหนา มีทั้งผ้าขาว และผ้าเหลือง เชือกคาดเอวนี้ หายากกว่าเหรียญรุ่นแรกอีกครับ ไม่ได้ทำไว้ให้บูชา จะมีได้ก็เฉพาะ คนในพื้นที่ ที่ต้องการ วัดขนาดเอวมา ของใครของมัน แล้วค่อยมารับวันหลัง หลวงปู่ท่านยังเป็นพระร่วมสมัยกับ (หลวงปูโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี) แต่หลวงปู่โชติท่านแก่พรรษากว่าหลวงปู่โต๊ะ สมัยที่หลวงปู่โชติ มาอยู่วัดตะโนแล้วนั้น หลวงปู่โต๊ะ ท่านมักไปมาหาสู่กันเป็นประจำ โดยหลวงปูโต๊ะ ท่านนับถือหลวงปู่โชติ มาก อีกทั้งหลวงปู่โต๊ะ ยังได้ร่ำเรียนวิชา ทำผงพุทธคุณกับหลวงปู่โชติอีกด้วย....
สำหรับเชือกคาด หลวงปู๋โชติ วัดตะโน นั้น ท่านมีกรรมวิธีการทำ คือ.....
ท่านจะนำเอาผ้าห่อศพ ที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร กล่าวกันว่า เวลาเอาผ้าต้องใช้ปากคาบดึงมาจากศพ เมื่อได้มาแล้วจึงนำผ้ามาซักน้ำฝนกลางหาว แล้วนำผ้ามาฉีกเป็นริ้วๆ แล้วลงอักขระเลขยันต์ จนครบสูตร และทำการฝั้นเชือก แล้วถักขึ้นหัว จนถึงห่วง เป็นลายกระดูกงู ระหว่างถักนั้นหลวงพ่อโชติ จะบริกรรมคาถากำกับด้วย และเมื่อเสร็จแล้วท่านจะทำการปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง ตามประวัติที่ว่า ถึงขนาดปลุกเสกจนหัวเชือกเข้าไปในห่วงเองได้ หรือเชือกสามารถเคลือนไหวไปมาได้ บางครั้งนำเชือกไปใส่ในกองไฟ ถ้าไม่ไหม้ไฟถือว่าใช้ได้ เสร็จแล้วท่านจึงมอบให้แก่บรรดาลูกศิษย์ ไว้เพื่อป้องกันตัวเองในยามคับขัน
อิทธิคุณของเชือกคาดเอวของท่านนั้น เด่นในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ป้องกันภูตผีปีศาจ กันงูเงี้ยวเขี้ยวขอและอสรพิษร้ายต่างได้วิเศษนัก ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าถ้านำเชือกคาดเอวของท่านไปคล้องกับงู งูจะอ่อนแรงลง จนเลื้อยหนีไปไหนไม่ได้ บางท่านเล่าว่านำหัวเชือกคาดเอวของท่าน มาใส่ในห่วงทำเป็นวงกลม แล้วนำไปครอบใส่ตะขาบ ตัวตะขาบนั้น จะไม่สามารถข้ามวงเชือกคาดเอวของท่านออกมาได้ จะเดินวนอยู่ในวงเชือกนั้น
ต้องบอกว่าหายากสุดๆๆครับ ใครมีก็หวง....ข้อควรจำ...คนรุ่นเก่าลูกศิษย์ท่าน ห้ามเอาเชือกคาดเอวของท่านไปตีไปทำร้าย หรือเคาะหัวคนอื่น เพราะจะทำให้คนๆนั้นเสียสติและเป็นคนวิกลจริต ที่สำคัญรักษาให้หายยาก

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน